จุดเด่นของโปรแกรม English Mate
สนุกจนลืมว่าเรียนอยู่
ด้วยการเลือกสรรภาพยนตร์ชั้นยอดมาทำเป็นสื่อในการเรียนรู้ และยังสอดแทรกกระบวนการเรียนรู้อย่างแนบเนียน ไม่สะดุด ทำให้ผู้เรียนรู้สึกสนุกและติดใจจนต้องอยากดูอีก
ไม่มีคำว่ายากเกินไป
เพราะสามารถเลือกบทเรียนที่มีความยากเหมาะสมกับผู้เรียนได้ ตั้งแต่อนิเมชั่นคำศัพท์ง่ายๆ แสนสนุก ไปจนถึงภาพยนตร์วิทยาศาสตร์คำศัพท์ไฮโซเรื่องราวเข้มข้น
ไม่มีกั๊ก
กับภาพยนตร์กว่า 50 เรื่อง และคลิปวิดีโอมากมาย ที่สามารถดูเท่าไหร่ก็ได้ตลอดปี และจะมีการเพิ่มเนื้อหาอยู่เสมอๆ
ตามติดทุกฝีก้าว
ด้วยระบบการจัดการเรียนรู้ ที่จะเปลี่ยนให้ผู้สอนให้เป็นเชอร์ล็อค โฮล์มส์ สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวและประวัติการใช้งาน รวมไปถึงการประเมินผลนักเรียนแบบอัติโนมัติเป็นรายบุคคลได้
ยืดหยุ่นในหลักสูตร
สามารถปรับใช้ได้ในทุกหลักสูตร ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรกระทรวง หลักสูตร EP มหาวิทยาลัย โรงเรียนอาชีวะ โรงเรียนกวดวิชา หรือแม้กระทั่งการศึกษาด้วยตนเอง
คนไทยใช้ได้ ฝรั่งใช้ดี
กับระบบสองภาษา ไล่ตั้งแต่ตัวโปรแกรม เว็บไซต์ ไปจนถึงคู่มือการใช้งานและเอกสารประกอบภาพยนตร์ คุณครูต่างชาติสามารถนำไปใช้สอนนักเรียนได้ทันที
เรียนไร้รอยต่อ
อยากเรียนที่ไหนก็ทำได้ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ห้องเรียน หรือที่ห้องสมุด ขอแค่มีคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ผู้เรียนก็สามารถดูภาพยนตร์ต่อจากที่ค้างไว้ได้ ด้วยบัญชีผู้ใช้งานส่วนบุคคล
เพราะมันคือนวัตกรรม
ที่มีเครื่องมือช่วยในการเรียนรู้มากมาย ทั้งการแปลคำบรรยายภาษาอังกฤษทุกคำ การเน้นคำศํพท์ที่มีความสำคัญ และความสามารถในการลดความเร็วภาพยตร์เมื่อฟังไม่ทัน อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
จุดเด่นในแต่ละส่วน
เนื้อหาที่เราเลือกสรร
เนื่องจากอิงลิชเมทใช้ภาพยนตร์เป็นสื่อหลักในการเรียนรู้ เราจึงจำเป็นต้องคัดเลือกภาพยนตร์กันอย่างเข้มงวด เงื่อนไขข้อแรกสำหรับภาพยนตร์ทุกๆ เรื่องก็คือ ต้องมีเนื้อหาที่เหมาะสม และไม่ใช่ภาพยนตร์สยองขวัญซึ่งถือว่าไม่เหมาะสมต่อผู้ใช้งานส่วนมาก จากนั้นเอาคำศัพท์ที่ใช้ในบทสนทนามาตรวจสอบว่าอยู่ในความยากระดับใด สอดคล้องกับเนื้อหาและความเร็วในการพูดโดยเฉลี่ยหรือไม่ เนื่องจากอิงลิชเมทได้วางมาตรฐานของภาพยนตร์ในแต่ระดับความยากเอาไว้แตกต่างกัน เช่นในระดับที่ 1 เนื้อเรื่องต้องไม่ซับซ้อน ตัวละครต้องพูดช้าและชัดเจน เป็นต้น และสำหรับภาพยนตร์เรื่องใดที่มีการสอดแทรกคุณธรรมและข้อคิดเข้าไปในเนื้อหาก็จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ ที่สำคัญคำบรรยายทั้งภาษาไทยนั้นได้ถูกจัดทำขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ เพื่อให้เหมาะสมกับการเรียนรู้
ตัวช่วยในการเรียนรู้
เพื่อให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างลื่นไหล อิงลิชเมทได้เตรียมเครื่องมือช่วยเหลือในการเรียนรู้เอาไว้ สำหรับคำศัพท์คำไหนที่ยาก ก็จะมีการเน้นเพื่อบอกความหมายและลักษณะคำทางไวยากรณ์ และยังมีการรวบรวมคำศัพท์เหล่านี้เอาไว้ทางด้านขวาของหน้าจอ เพื่อให้สะดวกต่อการตามอ่าน นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถกดที่คำศัพท์หรือคำบรรยายภาษาอังกฤษเพื่อข้ามไปเล่นภาพยนตร์ตอนที่ปรากฏคำศัพท์/บทสนทนาได้ สำหรับผู้ใช้งานที่ฟังไม่ทันก็สามารถลดความเร็วของภาพยนตร์ได้ตามต้องการ และถ้ามีคำถามอื่นๆ สามารถค้นหาได้จากพจนานุกรมในโปรแกรมหรือสอบถามได้ที่ Facebook หรือ Twitter
แบบทดสอบท้ายบท
ผลลัพทธ์ที่ได้จากการทำแบบทดสอบ นอกจากจะอนุญาตให้ให้ผู้ใช้งานดูภาพยนตร์ตอนถัดไปได้แล้ว จะยังมีการคำนวณออกมาเป็นเกรดเพื่อความสะดวกในการวัดผล โดยเกรดจะถูกตัดตามคะแนนที่ผู้ใช้งานทำได้ในแต่ละแบบทดสอบเช่น ถ้าได้คะแนน 90% ของคะแนนเต็มก็จะได้เกรด A แต่ถ้าถ้าได้คะแนนอยู่ในช่วง 70- 80 % ของคะแนนเต็มก็จะได้เกรด C ถ้าหากผู้ใช้งานไม่พอใจในเกรดที่ได้ ก็สามารถทำแบบทดสอบซ้ำได้เรื่อยๆ เพราะระบบจะคิดเกรดจากครั้งที่ทำแบบทดสอบได้คะแนนมากที่สุด ทั้งนี้ในแต่ละปี อิงลิชเมทตั้งใจให้ผู้ใช้งานดูภาพยนตร์อย่างน้อยปีละ 8 เรื่องขึ้นไป เพราะฉะนั้น ผู้ใช้งานจำเป็นต้องดูภาพยนตร์ให้ครบตามจำนวนที่กำหนด มิฉะนั้นเกรดของภาพยนตร์เรื่องที่ไม่ได้ดูจะถือว่าเป็น F ทั้งนี้ เกรดในแต่ละปีๆ จะถูกล้างเมื่อขึ้นปีการศึกษาใหม่และจะไม่ได้คะแนนจากภาพยนตร์เรื่องที่เคยดูแล้ว ซึ่งก็แปลว่าผู้เรียนจำเป็นต้องดูภาพยนตร์เรื่องใหม่อย่างสม่ำเสมอ
การติดตามและวิเคราะห์ผลการเรียน
สำหรับบัญชีของผู้สอนจะมีระบบพิเศษที่เพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งก็คือระบบติดตามการใช้งานของนักเรียน ทำให้ผู้สอนสามารถติดตามผลเป็นรายห้องและรายบุคคลได้ ผู้สอนสามารถดูได้ว่าในห้องเรียนห้องหนึ่ง มีนักเรียนคนไหนที่มีผลการใช้งานที่น่าประทับใจ หรือมีนักเรียนคนไหนที่ควรจะได้รับการกระตุ้นให้เร่งดูภาพยนตร์ให้มากขึ้นเพื่อให้ดูภาพยนตร์ครบตามเกณฑ์ที่กำหนด นอกจากนี้ ผู้สอนยังสามารถเข้าไปดูผลการทำแบบทดสอบเป็นรายบุคคลได้ โดยจะมีกราฟแสดงทักษะทั้ง 4 ด้านของผู้เรียน ซึ่งได้แก่ คำศัพท์และความหมาย ไวยากรณ์ การคิดวิเคราะห์ และการเลือกใช้คำศัพท์ รวมไปถึงประวัติการทำแบบทดสอบแต่ละครั้งของผู้เรียน และสุดท้าย เมื่อจบภาคการศึกษาหรือปีการศึกษา ผู้สอนสามารถพิมพ์ใบรายงานผลการใช้งานของผู้เรียนออกมาเพื่อแจกจ่ายให้แก่นักเรียน/ผู้ปกครองได้อีกด้วย
การคิดคะแนน
ผลลัพทธ์ที่ได้จากการทำแบบทดสอบ นอกจากจะอนุญาตให้ให้ผู้ใช้งานดูภาพยนตร์ตอนถัดไปได้แล้ว จะยังมีการคำนวณออกมาเป็นเกรดเพื่อความสะดวกในการวัดผล โดยเกรดจะถูกตัดตามคะแนนที่ผู้ใช้งานทำได้ในแต่ละแบบทดสอบเช่น ถ้าได้คะแนน 90% ของคะแนนเต็มก็จะได้เกรด A แต่ถ้าถ้าได้คะแนนอยู่ในช่วง 70- 80 % ของคะแนนเต็มก็จะได้เกรด C ถ้าหากผู้ใช้งานไม่พอใจในเกรดที่ได้ ก็สามารถทำแบบทดสอบซ้ำได้เรื่อยๆ เพราะระบบจะคิดเกรดจากครั้งที่ทำแบบทดสอบได้คะแนนมากที่สุด ทั้งนี้ในแต่ละปี อิงลิชเมทตั้งใจให้ผู้ใช้งานดูภาพยนตร์อย่างน้อยปีละ 8 เรื่องขึ้นไป เพราะฉะนั้น ผู้ใช้งานจำเป็นต้องดูภาพยนตร์ให้ครบตามจำนวนที่กำหนด มิฉะนั้นเกรดของภาพยนตร์เรื่องที่ไม่ได้ดูจะถือว่าเป็น F ทั้งนี้ เกรดในแต่ละปีๆ จะถูกล้างเมื่อขึ้นปีการศึกษาใหม่และจะไม่ได้คะแนนจากภาพยนตร์เรื่องที่เคยดูแล้ว ซึ่งก็แปลว่าผู้เรียนจำเป็นต้องดูภาพยนตร์เรื่องใหม่อย่างสม่ำเสมอ
รางวัลและการจัดอันดับ
เพื่อให้การดูภาพยนตร์และทำแบบทดสอบมีสีสันยิ่งขึ้น โปรแกรมอิงลิชเมทจึงได้จัดทำชุดรางวัลขึ้นมาสำหรับคนที่ทำตามเงื่อนไขต่างๆ ได้สำเร็จ เช่นดูภาพยนตร์ครบตามจำนวนที่กำหนด ทำแบบทดสอบได้คะแนนดี หรือว่าอาจจะเป็นแค่อะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจจะได้มาโดยไม่ทันรู้ตัว นอกไปจากนี้ยังมีการนำเอาคะแนนของแบบทดสอบที่ทำได้มาจัดเป็นอันดับในชั้นปีแบ่งตามแต่ละบทของภาพยนตร์ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักเรียนใช้งานโปรแกรมอิงลิชเมทด้วยความสนุกสนาน
ที่มา : http://www.english-mate.com/