เกร็ดความรู้เกี่ยวกับไวน์
1. การอ่านฉลากไวน์
- ตราหรือชื่อผู้ผลิต
- ประเทศผู้ผลิต
- ชื่อไวน์ตามแบบนิยม
- ระดับคุณภาพของไวน์
- ปีที่ปลูกและเก็บเกี่ยวองุ่นมาทำไวน์
- ประเภทของไวน์
- ชื่อผู้บรรจุขวด
- ปริมาณแอลกอฮอล์
- ปริมาตรสุทธิ
- ชื่อผู้ส่งออกจำหน่าย
2. การเสิร์ฟไวน์
1. ไวน์ขาว (White Wine) ไวน์ โรเซ่ (Rose Wine) สปาร์กกิ้ง ไวน์ (Sparking Wine) และแชมเปญ (Champagne) จะต้องเสิร์ฟในถังเหล้าไวน์ (เสิร์ฟเย็น) ใส่น้ำแข็ง และเวลาเสิร์ฟห่อด้วยผ้ารอบขวด ระมัดระวังอย่าให้เหล้าหยดใส่แขกหรือโต๊ะ โดยเสิร์ฟในแก้วสีขาวก้านเล็ก อย่ารินให้เต็มจนเกินไป
2. ไวน์แดง (Red Wine) ควรเสิร์ฟในตระกร้าที่อุณหภูมิห้อง วางขวดลงที่บาร์บริการ ไม่ใช่ที่โต๊ะที่แขกนั่ง วางห้สลากตราเหล้าหงายขึ้น การหยิบจับจะต้องระวังให้นิ่มนวล อย่าหมุนขวดเพราะตะกอนที่นอนก้นอยู่จะทำให้ไวน์มีสีขุ่นไม่น่าดื่ม รินอย่างนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ครั้งแรกรินในปริมาณที่น้อย ๆ เพื่อให้แขกลองชิมดูรสชาติก่อน และไม่ควรจับที่ขวดไวน์โดยตรง เนื่องจากไวน์มีความไวต่ออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง จะทำให้รสชาติไวน์เปลี่ยนไปได้ เช่นเดียวกับการดื่มก็ต้องระวังจุดนี้เช่นกัน ผู้ดื่มจึงควรจับที่ก้านแก้ว
3. ขั้นตอนในการเสิร์ฟไวน์
1. ต้องโชว์ขวดไวน์ให้แขกดูก่อนเปิดทุกครั้ง
2. รินไวน์ให้ชิมก่อนประมาณ ของแก้ว
3. รินไวน์ให้กับแขกคนที่เป็นคนสั่งไวน์
4. ต่อไปจึงรินให้สุภาพสตรีก่อน
5. รินไวน์ทางขวามือของแขกเสมอ
6. ไม่ควรรินไวน์ให้เต็มแก้วจนเกินไป (ห่างจากปากแก้วประมาณ 1–1 ซม.)
4. การทำความสะอาดแก้ว
1. ควรล้างภาชนะที่ทำด้วยแก้วก่อนภาชนะอื่น
2. ควรล้างภาชนะที่ทำด้วยแก้วก่อนภาชนะอื่น
3. ควรเทน้ำแข็งออกจากแก้วก่อนที่จะทำความสะอาดแก้ว
5. สาเหตุที่ทำให้แก้วมีอายุการใช้งานลดลง
1. การเกิดการกระทบกันของแก้ว การใช้แก้วร่วมกับอุปกรณ์เครื่องดื่ม จะทำให้เกิดรอยขูดเล็กๆ ซึ่งมองเห็นไม่ชัดเจน ดังนั้นจึงควรใช้แก้วอย่างระมัดระวัง
2. การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วกับตัวแก้ว การนำแก้วที่เย็นจัดไปใส่น้ำร้อนทันทีหรือแก้วที่กำลังร้อนอยู่นำไปใส่น้ำเย็นทันที มีผลทำให้เกิดรอยร้าวและแตกในที่สุด ดังนั้นจึงควรรอสักครู่เพื่อให้แก้วปรับอุณหภูมิสู่ปกติก่อนที่จะนำไปใช้งานต่อไป